วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

การแกะรอยทุ่นระเบิด (Mine Tracker)


การปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม (Humanitarian Demining Operations : HDO) ในประเทศไทย เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 หลังจากที่ประเทศไทยได้ลงนามในอนุสัญญาการห้ามใช้ ผลิต สะสม และโอนและทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือที่เรียกว่าอนุสัญญาออตตาวา



งานหลักๆ ของ HDO in Thailand มี 3 ด้าน ได้แก่
  1. งานแจ้งเตือนและให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากทุ่นระเบิด เพื่อป้องกันไม่ให้ราษฎรเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิด และตะหนักถึงพิษภัยของทุ่นระเบิด เมื่อพบเจอ อย่าจับ อย่าสัมผัส ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
  2. งานค้นหาและทำลายทุ่นระเบิดที่ตกค้างจากการสู้รบในอดีต
  3. งานช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิด ให้มีความเป็นอยู่ในสังคมตามฐานะและตามสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ควรได้รับ
งานค้นหาและทำลายทุ่นระเบิดที่ตกค้างจากการสู้รบในอดีต นับว่าเป็นงานท้าทายอย่างยิ่ง การแกะรอยทุ่นระเบิด (Mine Tracker) ที่มีประสิทธิภาพ จึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อการบรรลุภารกิจนี้ ทุ่นระเบิดและสรรพาวุธระเบิดที่ยังไม่ระเบิด (UXO) ที่ตกค้างและหลงเหลืออยู่ในประเทศไทยถึงปัจจุบัน เกิดจากการสู้รบในอดีตที่ผ่านมาพอสรุปได้ดังนี้

  • พ.ศ.2484-2488 สงครามโลกครั้งที่ 2
  • พ.ศ.2490-ปัจจุบัน ชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาร์
  • พ.ศ.2492-2432 โจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายา
  • พ.ศ.2508-2525 พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
  • พ.ศ.2518-2539 การรบของเขมรแดงและเวียดนาม



การแกะรอยทุ่นระเบิดครั้งแรก
หลังจากที่ประเทศไทยลงนามในอนุสัญญาออตาวา เมื่อปี พ.ศ.2542 ศูนย์ปฎิบัติการสำรวจ (Survey Action Center : SAC) ของสหประชาชาติ ได้คัดเลือกและมอบหมายให้ องค์การเพื่อความช่วยเหลือชาวนอร์เวย์ (NPA) ร่วมกับศูนย์ปฎิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (Thailand Mine Action Center : TMAC) ดำเนินการสำรวจเรื่องผลกระทบจากทุ่นระเบิดในประเทศไทยอยู่ประมาณ 2 ปี จนกระทั่งการสำรวจแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2545 พบว่า "มีพื้นที่ต้องสงสัยว่าจะมีทุ่นระเบิดอยู่จำนวน 933 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 2,556.7 ตร.กม. ใน 23 จังหวัด มีหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจำนวน 530 หมู่บ้าน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตความเป็นอยู่และความปลอดภัยของราษฎรจำนวน 503,682 คน "

การสำรวจผลกระทบดังกล่าวใช้กำลังคนและทรัพยากรจำนวนมาก ลงพื้นที่จริง พูดคุยสนทนากับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำข้อมูลที่มากรอกแบบฟอร์มต่างๆ อย่างเป็นระบบ การสำรวจดังกล่าว ผมถือว่าเป็นการแกะรอยทุ่นระเบิดครั้งแรกในประเทศไทย

การค้นหาและเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ผ่านมา
การปฏิบัติภารกิจขององคกร HDO ต่างๆ ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 เป็นต้นมา ถึงปัจจุบัน สามารถค้นหาและทำลายทุ่นระเบิดได้  ตามภาพที่แสดงไว้ด่านล่างนี้ 



ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่พบมากที่สุด ก็คือ PMN ซึ่งผลิตจากรัสเซีย ซึ่งคาดว่ากองทัพเวียดนามจะเป็นผู้วาง รองลงมาคือ TYPE  69 ซึ่งผลิตจากจีน คาดว่ากองทัพเขมรแดงจะเป็นผู้วาง 


ทุ่นระเบิดดักรถถังที่พบมากที่สุดในประเทศไทย คือ M6 A2 ผลิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา คาดว่ากองทัพไทยจะเป็นผู้วางเอง เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยเข้ามาในดินแดนไทยของกองทัพเวียดนามและกองทัพเขมรแดง

ประสบการณ์กำลังจะสูญหาย
ผู้ที่ปฏิบัติการค้นหาและเก็บกู้ทุ่นระเบิดในประเทศไทย หลายคนเสียชีวิตไปแล้ว และหลายคนไม่มีโอกาสที่จะถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานรุ่นต่อไปได้ฟัง ความรู้และประสบการณ์ที่คนเหล่านี้มีอยู่ ยังไม่ถูกสกัดออกมาและเก็บบันทึกเอาไว้เป็นความรู้ให้ HDO รุ่นหลังได้ศึกษา ผมมีความเชื่อว่า "หากพวกเราแกะรอยมันได้ พวกเราจะปลอดภัย...และทำงานได้เร็วขึ้น" บางครั้งการค้นหาอดีต อาจช่วยให้เราแก้ปัญหาในปัจจุบันได้  

การใช้เครื่องตรวจค้นเดินนำหน้าหาทุ่นระเบิดไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะมันเสี่ยงกับชีวิตของเรา หากเราพบมันเข้าจริงๆ สักทุ่นหนึ่งกลางผืนป่า อาจทำให้เรารู้สึกเว๋อ..สับสน  คิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่ถ้าหากเรามีเรื่องราวความรู้เกี่ยวกับการแกะรอยทุ่นระเบิดแล้ว ความรู้เหล่านี้อาจช่วยเราได้   


การแกะรอยทุ่นระเบิด (Mine Tracker)
ในปีนี้ ผมตั้งใจที่จะรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับการแกะรอยทุ่นระเบิด (Mine Tracker) จากผู้ที่มีประสบการณ์ในอดีตและปัจจุบัน ของหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1,2,3 และ 4 จากชุด ช.กองกำลังสนามต่างๆ จากองค์กร NGO ที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ รวมทั้งศึกษาค้นคว้าจากหนังสือ และเอกสารต่างๆ นำมาสกัดเป็นความรู้เพื่อถ่ายทอดให้แก่  HDO รุ่นหลังๆ ได้ศึกษาและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันต่อไป องค์ความรู้เหล่านี้ ไม่ควรจะสูญหายไป  และควรที่จะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในปฏิบัติงานในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้พวกเราปลอดภัย   




ขอความกรุณา HDO ผู้มีประสบการณ์ ได้โปรดช่วยอนุเคราะห์ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ของท่านให้แก่พวกเราฟังด้วย จักเป็นคุณูปการณ์อย่างยิ่งต่อวงการการปฏิบัติทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในประเทศไทย (HDO in THAILAND) สืบต่อไป 

*********************
พันเอก ดร.สุชาต จันทรวงศ์ : 27 ต.ค.2557
โทร. 081-434-8777
อีเมล์ s463368@gmail.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น